คณะข้าราชการสำนักพัฒนาพฤตินิสัย เข้าศึกษาดูงานช่างสิบหมู่

 

เมื่่อวันที่  23 กุมภาพันธ์ 2555 นายสุวิทย์ อิ้งทอง และคณะข้าราชการจากส่วนส่งเสริมการศึกษา สำนักพัฒนาพฤตินิสัย ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม  เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการนำเอาแขนงวิชาช่างสิบหมู่มาเปิดสอนในเรือนจำ/ทัณฑสถาน เพื่อให้ผู้ต้องขังได้มีความรู้ด้านศิลปะแขนงต่างๆ ช่วยในการพัฒนาพฤตินิสัย… 

           เมื่่อวันที่  23 กุมภาพันธ์ 2555 นายสุวิทย์ อิ้งทอง และคณะข้าราชการจากส่วนส่งเสริมการศึกษา สำนักพัฒนาพฤตินิสัย ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม  เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการนำเอาแขนงวิชาช่างสิบหมู่มาเปิดสอนในเรือนจำ/ทัณฑสถาน เพื่อให้ผู้ต้องขังได้มีความรู้ด้านศิลปะแขนงต่างๆ ช่วยในการพัฒนาพฤตินิสัย กล่อมเกลาจิตใจให้ละเอียดอ่อน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และอาจเป็นความรู้ติดตัวไปใช้ในการประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ สืบสานความรู้ด้านช่างสิบหมู่ของคนไทยที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาลมิให้สูญหายไป  

 

          ในการนี้ ได้รับได้รับการต้อนรับจาก ผู้อำนวยการสำนักช่างสิบหมู่  กรมศิลปากร (นางสาวนิรมล เรืองสม) เป็นอย่างดียิ่ง  และได้รับความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ของสำนักช่างสิบหมู่ในการนำชมงานศิลปะที่ดำเนินการอยู่ภายในสำนักช่างสิบหมู่ อธิบายถึงขั้นตอนการทำงานศิลปะประเภทต่างๆ การนำมาประยุกต์ใช้ ความยากง่าย มูลค่าของงานแต่ละชนิด ฯลฯ สำหรับความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานทั้งสอง  จะได้มีการหารือเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป
 
สำหรับช่างสิบหมู่ เป็นชื่อของกล่มงานที่รวบรวมช่างต่างๆเอาไว้อยู่ด้วยกัน 10 กลุ่ม หรือหมู่ช่างดังกล่าวเป็นช่างฝีมือของไทยที่มีลักษณะหน้าที่การทำงานต่างกัน ช่างสิบหมู่นั้นเข้าใจว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่มีการบันทึกเป็นหลักฐาน จนในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นจึงได้มการจัดช่างเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะ งานอย่างเป็นกิจจะลักษณะ  (อ้างอิงจาก  ช่างสิบหมู่
 
          ในสมัยก่อนนี้จะต้องเป็นทั้งผู้คิดและผู้ปฏิบัติด้วยอยู่ในคนคน เดียวกันจึงต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์และจินตนาการที่ลึกซึ้ง ตลอดจนฝีมือที่ละเอียดประณีตบรรจงและที่สำคัญจะต้องมีใจรักในงานเป็นอย่าง ยิ่งช่างทั้ง 10 หมู่นี้จะเป็นช่างหลวงและทำงานสนองพระราชประสงค์ หรือพระบรมราชโองการของพระเจ้าแผ่นดิน ช่าง 10 หมู่ประกอบด้วย
 
          1. หมู่ช่างเขียน ซึ่งเป็นงานแม่บทในกระบวนช่างทั้งหลาย เพราะไม่ว่าจะเป็นงานช่างใดก็ตามจะต้องอาศัยการเขียน การวาดเป็นแบบก่อนเสมอ ช่างในหมู่นี้จึงประกอบด้วย ช่างเขียน ช่างปิดทอง ช่างลงรัก ช่างแกะ ช่างปั้น ช่างหุ่น และอื่น ๆ
 
          2. หมู่ช่างแกะ หรือที่ปัจจุบันเรียกว่าเป็นช่างแกะสลัก หมู่ของช่างแกะจะประกอบด้วยช่างแกะตรา ช่างแกะลาย ช่างแกะพระ ช่างแกะภาพ ทั้งยังหมายรวมไปถึงช่างเงินช่างทองและช่างเพชรพลอยอีกด้วย
 
          3. หมู่ช่างหุ่น ” หุ่น ” ในที่นี้หมายถึง “รูปร่าง” ช่างหุ่นจึงเป็นช่างที่ทำสร้างให้เป็นตัวหรือเป็นรูปร่างขึ้นมา หมู่ของช่างหุ่นจึงประกอบไปด้วยช่างไม้ ช่างไม้สูง ช่างเลื่อย ช่างบากไม้ ช่างทำหุ่นรูปคน / รูปสัตว์ / หัวโขน และช่างเขียน
 
          4. หมู่ช่างปั้น ช่างปั้นจะมีความสัมพันธ์กับช่างปูน ช่างหล่อเป็นอย่างมาก และผลงานช่างปั้นก็มักจะออกมาในรูปของผลงานของช่างทั้ง 2 หมู่ ช่างปั้นจึงประกอบไปด้วยช่างขี้ผึ้ง ช่างปูน ช่างขึ้นรูป และช่างหุ่น
 
          5. หมู่ช่างปูน ลักษณะงานของช่างปูนจะมีทั้งงานซ่อมและงานสร้าง ช่างปูนจะแบ่งออกเป็นพวกปูนก่อ พวกปูนฉาบ และพวกปูนปั้น ซึ่งพวกหลังสุดคือพวกปูนปั้นนี้จะต้องมีความประณีต เป็นพิเศษกับจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ จึงจะสามารถผลิตผลงานออกมางดงามและคงมน ช่างที่รวมอยู่ในหมู่ช่างปูนนี้จะประกอบไปด้วยช่างปั้น ช่างปูนก่อ ช่างปูนฉาบ และช่างปูนปั้น
 
          6. หมู่ช่างรัก ช่างรักนี้มีมานานตั้งแต่ปลายสมัยสุโขทัย แล้ว งานศิลปะไทยหลายแขนงที่จะต้องมีการลงรักปิดทองเป็นขั้นสุดท้าย ช่างที่อยู่ในหมู่ของช่างรักประกอบด้วย ช่างลงรัก ช่างปิดทอง ช่างประดับกระจกช่างมุก และช่างเครื่องเขิน
 
          7. หมู่ช่างบุ “บุ”หมายถึง การตีแผ่ให้เป็นแผ่นแบน ๆ ซึ่งอาจจะแบนออกมาเป็นรูปต่าง ๆ หรือเป็นแผ่นแบนธรรมดาก็ได้ งานของช่างจึงเกี่ยวพันโดยตรงกันกับงานโลหะทุกชนิด (เงิน, นาก, ทองเหลือง, ทองแดง และทองคำ) จนบางครั้งเรียกกันว่า เป็นช่างโลหะไปเลย
 
          8. หมู่ช่างกลึง งานของช่างในหมู่ช่างกลึงนี้ นอกจากจะมีการกลึงให้กลมและผิวเรียบแล้ว ยังรวมไปถึงการประดับตกแต่งสิ่งที่กลึงแล้วอีกด้วยเช่น การปิดทอง การประดับกระจก การแกะสลัก ช่างในหมู่ของช่างกลึงจึงประกอบไปด้วย ช่างไม้ ช่างเขียน ช่างแกะงา(ช้าง) ช่างทำกลอง ช่างลงรัก ช่างปิดทอง ช่างประดับกระจก
 
          9. หมู่ช่างสลัก งานของช่างสลักนี้ จะเน้นไปในเรื่องของการสลักเสลาให้สวยงาม จึงต้องมีความประณีตบรรจงเป็นพิเศษ วัสดุที่ใช้ในการสลักอาจเป็นของแข็ง เช่น ไม้ กระดาษ และของอ่อนที่เรียกกันว่า เครื่องสด เช่น หยวกกล้วย ช่างของหมู่ช่างสลัก ประกอบด้วย ช่างฉลุ ช่างกระดาษ ช่างหยวก ช่างเครื่องสด
 
          10. หมู่ช่างหล่อ ด้วยประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำ ชาติ งานหล่อของไทยจึงเน้นหนักไปในการหล่อพระพุทธรูปเป็นส่วนใหญ่ หมู่ของช่างหล่อ ประกอบด้วย ช่างหุ่นดิน ช่างขี้ผึ้ง ช่างผสมโลหะ และช่างหล่อโลหะ
 
 

{jcomments on}
 

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *